1. ลองหากระดาษเปล่า แล้วเขียนคุณสมบัติตำแหน่งที่คุณสมัครที่นายจ้างต้องการ แล้วเช็คดูว่าคุณสมบัติของคุณมีตรงตามนั้นหรือไม่ กี่ข้อ เพื่อดูว่าคุณสมบัติของคุณตรงกับคุณสมบัติของบุคคลที่นายจ้างกำลังค้นหา หรือไม่
2. หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่คุณจะไปสัมภาษณ์ ให้ได้มากที่สุด และลองประเมินคร่าวๆ ว่าคุณมีคู่แข่ง ในสังเวียนเดียวกันนี้ เยอะหรือน้อยแค่ไหน
3. เตรียมตอบคำถามในห้องสัมภาษณ์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คำถามที่คุณต้องเจอคือ "ช่วยแนะนำตัวเองหน่อย" หรือ "Tell me about yourself" ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องเตรียมก่อนอื่นเลยคือ เขียนสคริปแนะนำตัวเอง ความยาวประมาณ 1 นาที และลองแนะนำตัวเองกับเพื่อน หรือจะพูดคนเดียวหน้ากระจกก็ได้
4. คำถามยอดฮิตที่คุณอาจจะได้เจอ คือ ให้ "ลองเล่าประสบการณ์ หรือเหตุการณ์ที่คุณเคยประสบความสำเร็จให้ฟังหน่อยสิ" หรือ "Tell me about a time when..." คุณจึงควรเตรียมเรื่องที่จะเล่า คงไม่ดีแน่ถ้าคุณจะไปนึกเอาเดี๋ยวนั้นในห้องสัมภาษณ์ ทางที่ดี ให้เตรียมเรื่องราวที่คุณ (คิดว่า) เคยประสบความสำเร็จมา อย่างน้อยสัก 5 เรื่อง
5. เตรียมคำถามที่จะไปถามผู้สัมภาษณ์ นอกจากที่คุณจะต้องตอบคำถามหลายต่อหลายข้อแล้ว ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์จะเปิดโอกาสให้คุณได้ตั้งคำถามบ้าง ซึ่งถ้าถามสุ่มสี่สุ่มห้า ประเภทว่าอยากรู้อะไรก็ถาม ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนัก (และเผลอๆ อาจจะทำให้คะแนนของคุณหล่นฮวบ แม้ว่าจะตอบคำถามมาดีตลอด) การตั้งคำถามจึงสำคัญไม่แพ้กับการตอบคำถามเลยทีเดียว ซึ่งคำถามที่คุณควรถาม ยกตัวอย่าง เช่น ลักษณะของงาน หน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ฯลฯ
6. คิดเอาไว้ว่า อัตราเงินเดือนของตำแหน่งที่คุณสมัครอยู่ในระดับใด และที่คุณคาดหวังว่าจะได้ประมาณเท่าไหร่ อาจจะคิดเป็น อัตราเงินเดือนขั้นต่ำที่คุณคาดว่าจะได้ นี่คือคำถามที่คุณต้องตอบทั้งในใบสมัครงาน และการสัมภาษณ์
7. เตรียมหารายชื่อบุคคลที่คุณสามารถใช้เป็นผู้ค้ำประกัน หรือบุคคลที่ให้ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับตัวคุณได้ (ที่ไม่ใช่ญาติ) โดยควรจะขออนุญาติบุคคลเหล่านั้นก่อนที่จะใช้ชื่อ

ขอขอบคุณบทความจาก www.khonkaenjob.com